บ้านสไตล์ทรอปิคอลโมเดิร์น สวยทันสมัย โปร่งสบายจนลืมร้อน
บ้านสไตล์ทรอปิคอลโมเดิร์น ปัจจุบันการออกแบบบ้านนั้นมีหลากหลายสไตล์ แต่สไตล์บ้านที่ให้ความรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา สอดรับกับธรรมชาติโดยรอบ แถมยังเหมาะกับอากาศร้อนชื้นของประเทศไทยเป็นอย่างดีเลยก็คือ “บ้านสไตล์ทรอปิคอล” เพราะบ้านสไตล์นี้เน้นการออกแบบให้มีหน้าต่างหรือช่องรับลมขนาดใหญ่ เพื่อการถ่ายเทอากาศและรับแสงธรรมชาติได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังป้องกันไม่ให้อากาศภายในบ้านร้อนหรือชื้นจนเกินไป วันนี้ HomeTalks จึงขอพามาส่องผลงานการออกแบบบ้านสไตล์ทรอปิคอลจากนักออกแบบชาวคอสตาริกา รวมถึง 5 ปัจจัยการออกแบบบ้านสไตล์ทรอปิคอล บ้านที่สอดรับธรรมชาติเหมาะกับเมืองไทย
รู้จักบ้านสไตล์ทรอปิคอล
ก่อนอื่นมาทำความรู้จัก บ้านสไตล์ทรอปิคอล กันก่อน บ้านสไตล์นี้ถือเป็นแบบบ้านที่ให้ความรู้สึกกลมกลืนกับธรรมชาติได้เป็นอย่างดี มีลักษณะโดยรวมที่โปร่ง โล่ง สบาย เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นอย่างประเทศไทย และแถบประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เป็นอย่างดี ส่วนใหญ่บ้านสไตล์นี้นิยมใช้โทนสีสว่าง หรือเอิร์ธโทนเป็นสีหลักและใช้วัสดุตกแต่งบ้านที่ทำมาจากธรรมชาติ อย่างเช่น งานหวาย ไม้ไผ่ หรือหินศิลาแลง เป็นต้น
5 ปัจจัยการออกแบบบ้านสไตล์ทรอปิคอล
หลังจากรู้จักบ้านสไตล์ทรอปิคอลแล้วใครมีแพลนจะสร้างบ้านในสไตล์นี้ เตรียมจด 5 ปัจจัยที่ HomeTalks นำมาฝากกันได้เลย ถ้าทำครบตามข้อดัง 5 ต่อไปนี้ รับรองว่าคุณจะได้บ้านสไตล์ทรอปิคอลในฝันตามแบบที่จินตนาการไว้อย่างแน่นอน
1.เลือกใช้สีเอิร์ธโทน
การเลือกใช้สีเป็นปัจจัยแรกที่ HomeTalks แนะนำสำหรับการแต่งบ้านสไตล์ทรอปิคอล เพราะการเลือกใช้สีเอิร์ธโทนที่มีความสว่างสดใสช่วยให้บรรยากาศบ้านดูผ่อนคลาย แถมยังเนียนไปกับธรรมชาติได้เป็นอย่างดี บ้านเดี่ยว บ้านแฝด
หมายเหตุ : บ้านสไตล์นี้ไม่นิยมใช้สีโทนเข้มอย่างดำหรือเทาเป็นหลัก เพราะอาจทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกอึดอัด แต่อาจจะมีการแทรกเข้ามาเล็กน้อยตามความเหมาะสม และความชอบส่วนตัว
2.ใช้วัสดุธรรมชาติ
บ้านสไตล์ทรอปิคอล โดดเด่นด้วยการตกแต่งโดยใช้วัสดุที่มาจากธรรมชาติ ทั้งการตกแต่งภายในและภายนอก โดยที่วัสดุส่วนใหญ่ที่นักออกแบบเลือกใช้ไม่ได้มีแค่ไม้เท่านั้น คุณอาจจะลองหยิบงานหวาย เครื่องสาน เซรามิก หรือแผ่นกระเบื้องดินเผาปูพื้มาเพิ่มกลิ่นอายของธรรมชาติให้บ้านสไตล์ทรอปิคอลให้ดูน่าอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น
3.เติมต้นไม้ให้บ้าน
เพราะธรรมชาติคือพระเอกของบ้านสไตล์ทรอปิคอล HomeTalks จึงแนะนำให้มีการเติมพื้นที่สีเขียวให้กับบ้านสไตล์ทรอปิคอลของคุณ ถ้ามีพื้นที่เยอะก็อาจจะหาต้นไม้ที่ให้ร่มเงาขนาดใหญ่ หรือจะเป็นต้นไม้ตระกูลปาล์มหางกระรอก เพื่อให้บรรยากาศดูเป็นบ้านสไตล์ทรอปิคอลมากยิ่งขึ้น หรือถ้ามีพื้นที่น้อย อาจจะจัดสวนหน้าบ้านเล็ก ๆ หรือหลังบ้านโดยเลือกใช้ไม้คลุมดิน ไม้เลื้อย หรือต้นไม้ตระกูลเฟิร์น เป็นต้น
4.มีหน้าต่างหรือช่องรับลมขนาดใหญ่
อีกหนึ่งปัจจัยของบ้านสไตล์นี้คือความปลอดโปร่ง มีอากาศถ่ายเทได้ดี จึงต้องมีช่องรับลมหรือหน้าต่างบานใหญ่ เพื่อให้สายลมและแสงแดดเข้าถึงตัวบ้านได้อย่างเหมาะสม ไม่อึดอัด บางบ้านอาจมีการทำห้องนั่งเล่น หรือระเบียงแยกออกมาต่างหาก เพื่อนั่งรับลมธรรมชาติได้อย่างชิลล์ ๆ ไม่ง้อเครื่องปรับอากาศ แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าไฟฟ้าได้มากทีเดียว
5.เลือกใช้หลอดไฟสีส้ม (WARM WHITE)
การเลือกใช้ไฟสีส้ม หรือ (Warm White) ก็ถือเป็นปัจจัยที่ช่วยทำให้ บ้านสไตล์ทรอปิคอล ดูสมบูรณ์ และมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นในช่วงเวลาพลบค่ำ เพราะสีส้มแสดงถึงความรู้สึกอบอุ่น
แบบบ้านโครงสร้างเหล็ก สไตล์ทรอปิคอลโมเดิร์น
วิลล่า Joya Villas หลังนี้ตั้งอยู่ในป่าดิบชื้นของ Santa Teresa บนชายฝั่งแปซิฟิกของคอสตาริกา ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์สูง สถาปนิกจึงต้องออกแบบให้บ้านปรากฎกายเงียบ ๆ ท่ามกลางป่า เพื่อไม่ให้กระทบต่อสภาพแวดล้อม จึงเลือกใช้เหล็กและคอนกรีตเป็นวัสดุหลัก ดีไซน์บ้านเน้นการเปิดให้บ้านโปร่งรับแสง ระบายอากาศ และได้มุมมองทิวทัศน์ที่ดีที่สุด เป็นสถาปัตยกรรมเขตร้อนที่สามารถนำมาปรับใช้ในบ้านเราได้อย่างดี
บ้านโมเดิร์น สองหลังเชื่อมต่อกัน ใช้วิธีการก่อสร้างสมัยใหม่ที่ดีที่สุดเพื่อบ้านบรรยากาศสบายๆ ในเขตร้อน ลุคบ้านทันสมัยแต่กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ด้วยโครงสร้างเหล็ก I-beam ขนาดใหญ่สีดำและคอนกรีตเป็นหลัก เหมือนเป็นกล่องวางซ้อนทับกันอยู่ แต่ละกล่องติดผนังกระจกที่เปิดโล่งเหมือนบ้านไร้ผนัง เหมาะกับอากาศในเขตร้อนของอเมริกากลาง
วัสดุที่ให้ความรู้สึกดิบ ๆ อย่างเหล็กและคอนกรีต ถูกลดความแข็งกระด้างและเติมความสมดุลด้วยต้นไม้เขียว ๆ และไม้ระแนงที่ตกแต่งอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของบ้าน งานไม้ยังแสดงให้เห็นเทคนิคการสร้างโดยช่างท้องถิ่น ซึ่งเป็นรากฐานการใช้ชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านที่ผูกพันอยู่กับธรรมชาติ กรอบโลหะสีดำสร้างช่องเปิดที่ทำให้บ้านเหมือนลอยยื่นออกมาเหนือพื้นที่ใช้งานทางสังคมด้านล่าง ทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอกและระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและส่วนรวมมากขึ้น
ช่องเปิดขนาดใหญ่ในทุกระดับของอาคาร ทำให้บ้านดูเหมือนมีน้ำหนักเบา และเชื่อมต่อผู้อยู่อาศัยเข้ากับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติโดยรอบได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของบ้านก็รับวิวท้องฟ้า บ้าน สูดความสดชื่นจากภูเขาและทะเล ได้เท่า ๆ กัน ภายในบ้านชั้นล่างเป็นพื้นที่ใช้งานส่วนรวม ตกแต่งโดยเน้นความโล่งเป็นสำคัญ จึงไม่แบ่งกั้นพื้นที่ใช้งานด้วยผนังแต่วางเฟอร์นิเจอร์เป็นตัวบ่งบอกขอบเขต รวมห้องครัว นั่งเล่น ห้องทานอาหารเข้าไว้ด้วยกัน เลือกใช้โทนสีดำ-ขาวและแทรกด้วยงานไม้ให้น้ำหนักเท่า ๆ กันอย่างสมดุล ประตูกระจกบานใหญ่ให้ความปลอดโปร่ง รับแสงธรรมชาติ และเปิดให้เข้าถึงสระว่ายน้ำได้ง่ายเพียงไม่กี่ก้าว
ห้องน้ำออกแบบให้เปิดโล่งทั้งด้านข้างและด้านบน ตกแต่งด้วยต้นไม้เขียว ๆ ทำให้ทุกครั้งที่เข้าไปใช้งานหรือการอาบน้ำก็ไม่ต่างอะไรกับได้ทำธุระส่วนตัวแบบ outdoor กลางสวน ให้ร่างกายเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
บันไดไม้สไตล์โมเดิร์นออกแบบให้ยึดติดผนัง
โยงไว้ด้วยสายเคเบิล ทำให้มองไกล ๆ เหมือนบันไดลอยตัวสร้างจังหวะที่น่าสนุกอยู่บนผนังคอนกรีต ห้อนนอนบนชั้น 2 เหมือนเป็นกล่องโปร่งๆ ยื่นออกไปด้านหน้า ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่ดีที่สุด สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ และความสดชื่นจากป่า ฟ้าสีคราม และไอทะเล อย่างใกล้ชิด
สถาปนิก Benjamin Garcia Saxe กล่าวว่า Joya Villas นี้เป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนของคลื่นลูกใหม่ทางสถาปัตยกรรม ที่ออกแบบมาสำหรับบ้านในเขตร้อน ซึ่งต้องปรับตามบริบททั้งสภาพภูมิประเทศและสภาพอากาศ การออกแบบอย่างระมัดระวังทำให้เกิดความสมดุลทั้งวัสดุ เทคนิคการสร้างสมัยใหม่ และสัมผัสของงานฝีมือแบบท้องถิ่น ทุกอย่างผสมกันจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ของการสร้างที่อยู่อาศัยให้อยู่ร่วมกับธรรมชาติ รังสรรค์ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนแสนสบายไม่ว่าจะฤดูไหนๆ